สุขตาสุขใจกับฝูงนกนางนวลนับหมื่น สีสันแห่งท้องฟ้าที่สถานตากอากาศบางปู ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ สถานตากอากาศบางปู ตั้งอยู่ริมทะเลและป่าชายเลน จากอดีตถึงปัจจุบัน ยังเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมเป็นแหล่งดูนกใกล้เมืองที่สำคัญอีกแห่ง ซึ่งมีนกน้ำหลายพันธุ์ เช่น นกตีนเทียน นกตะขาบทุ่ง นกแว่นตาขาว สีเหลือง นกกะติ๊ดขี้หมู นกนางนวล ซึ่งเป็นนกที่สร้างชื่อเสียงให้กับ บางปูเป็นอย่างมาก นกนางนวลที่มีในอ่าวไทยมีอยู่ 2 ชนิด นกนางนวลใหญ่ – เมื่อบินเหนื่อยแล้ว ชอบลงลอยตัวบนผิวน้ำทะเลและนกนางนวลแกลบ – มีในน่านน้ำไทย ถึง 15 ชนิด พวกนี้จะไม่ชอบลงลอยบนผิวน้ำทะเล นกนางนวลที่มาอาศัย อยู่ในสถานตากอากาศบางปูเป็นนกที่ทำรังวางไข่อยู่รอบ ๆ ทะเลสาปต่าง ๆ ในทิเบตและมองโกเลีย ในฤดูร้อน (ตรงกับฤดูฝนในประเทศไทย) พอลูกโต แข็งแรงสามารถบินได้ในระยะไกลแล้ว ก็จะพากันบินลงมาหากิน ตามชายทะเลในมหาสมุทรอินเดียจนถึงอ่าวไทย จะย้ายถิ่นถึงอ่าวไทย ในราวต้นเดือนพฤศจิกายน นกนางนวลรุ่นหนุ่มสาวจะมีหัวสีขาว มีจุดสีน้ำตาลคล้ำบริเวณขนคลุมหู พอถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์มันจะเปลี่ยนสีสัน สำหรับเลือกคู่ผสมพันธุ์ โดยเริ่มมีขนสีน้ำตาลดำที่หัว เมื่อได้คู่แล้วก็จะทยอยบินกลับไปวางไข่ บนที่ราบสูงใกล้ ๆ ทะเลสาปในประเทศทิเบตและมองโกเลียใหม่ มักจะเริ่ม บินย้ายถิ่นกลับในราวเดือนเมษายนและพวกสุดท้ายจะกลับปลายเดือน พฤษภาคม นกนางนวลชอบโฉบคาบเศษอาหารและเศษปลาที่ชาวเรือทิ้งลอยไป บนผิวน้ำ ทำให้ของเน่าเหม็นบนผิวน้ำทะเลหมดไป นางนวลจึงเป็นนก ที่ทำให้วิวทิวทัศน์ตามชายทะเลดูสวยงามน่าท่องเที่ยวน่าชมยิ่งขึ้น การเดินทาง มาชมฝูงนกนางนวลที่สถานตากอากาศบางปูจึงเป็น กิจกรรมหนึ่งที่ทำผู้ที่ได้พบเห็นเบิกบานสำราญใจ ทำให้รู้ว่าฤดูฝนได้ผันผ่าน ไป ฤดูหนาวกำลังจะมาเยือน ลมทะเลพัดเบา ๆ กับบรรยากาศยามเย็นจอดรถ ชมทิวทัศน์ พระอาทิตย์อัสดง และฝูงนกนางนวลที่บินอวดโฉมกางปีกสวย ให้เราได้ชมอย่างใกล้ชิดบนสะพานสุขตา อิ่มตาแล้วต้องอิ่มท้องด้วย เดินเท้าเข้าไปภายในศาลาสุขใจ ซึ่งเปิดเป็น ร้านอาหารโดยกรมพลาธิการทหารบกเลือกรายการอาหารทะเลสด ๆ เป็น อาหารค่ำ หากใครมีโอกาสมาในวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 17.00 – 21.00 น. จะมีกิจกรรม พิเศษเปิดฟลอร์ลีลาศ อิ่มเอมไปกับเสียงเพลงสุนทราภรณ์อันไพเราะ ควบคู่กับอาหารรสชาติอร่อยในราคาปกติตามเมนูให้กับอาหารมื้อเย็นและ คนรับประทานได้มีความสุขมากยิ่งขึ้น คิดค่าดนตรีภายในฟลอร์ลีลาศเพียง คนละ 50 บาทเท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองอำนวยการสถานพักผ่อน กรมพลาธิการทหารบก โทร.0-2323-9911, 0-2323-1213 |
ประวัติสถานตากอากาศบางปู พ.ศ. 2480 จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ได้ดำริให้สร้างเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับประชาชนทั่วไป เนื่องด้วยพื้นที่ติดชายทะเลและระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ พ.ศ. 2482 การดำเนินการก่อสร้างสะพานสุขตาเสร็จเรียบร้อยเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป สำนักงานทรัพย์สิน ส่วนพระมหากษัตริย์เป็นผู้รับผิดชอบดูแล โดยมีอธิบดีกรมสาธารณสุขเป็นประธาน ในชื่อเรียก "สถานตากอากาศชายทะเล บางปู" พ.ศ.2484 หยุดดำเนินการ เนื่องจากกองทัพญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกเพื่อใช้เป็นทางผ่านในการสู้รบกับฝ่ายสัมพันธมิตร ในสงครามมหาเอเชียบูรพา ู พ.ศ.2490 เมื่อเหตุการณ์สงบลงได้เปิดดำเนินการใหม่อีกครั้งโดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นผู้ดูแล พ.ศ. 2491 กรมพลาธิการทหารบก ได้รับมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบตามลำดับ คือ กรมสวัสดิการทหารบก , กรมพลาธิการทหารบก องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก,กรมพลาธิการทหารบกและโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พ.ศ. 2501 กรมพลาธิการเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ เปิดบริการขายอาหารและเครื่องดื่ม ที่บริเวณปลายสะพานสุขตา โดยเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา06.00-20.00น. จัดดนตรีและลีลาศในวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12.00-18.00 น.จัดบริการที่พักที่ปลายสะพานสุขตา ในราคา 60-110 บาท/วัน บ้านพักบริเวณริมแนวเขื่อน 80 บาท/วัน พ.ศ. 2505 กองทัพบกได้จัดตั้งเป็นสถานพักฟื้นและตากอากาศ กองทัพบก โดยมีคณะกรรมการอำนวยการสถานพักฟื้น และตากอากาศ กองทัพบกเป็นผู้กำกับดูแล โดยจัดแบ่งเป็นสถานพักฟื้นและตากอากาศบางปูกับสถานพักฟื้น และตากอากาศหาดเจ้าสำราญ พ.ศ. 2512 ได้ดำเนินกิจการสถานพักฟื้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจัดให้มีการรักษาพยาบาล และฟื้นฟูสภาพร่างกาย และจิตใจ บำรุงขวัญ ให้แก่ทหารที่บาดเจ็บจากการสู้รบ ซึ่งรับจาก รพ.พระมงกุฎเกล้าฯ ในชื่อเรียก" สถานพักฟื้นและพักผ่อนกรมพลาธิการทหารบก " พ.ศ. 2533 เปิดอนุสรณ์สถานเครื่องหมายทางประวัติศาสตร์สงครามมหาเอเชียบูรพา เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่น ยกพลขึ้นบก ณ สถานที่แห่งนี้ โดยมีพลเอกสายหยุด เกิดผล เป็นประธานในพิธี พ.ศ. 2535 จากการดำเนินการมาหลายปีทำให้สิ่งก่อสร้างบริเวณร้านอาหาร และห้องพักที่ปลายสะพานสุขตาชำรุด ได้ปรับปรุงห้องพักด้านขวาเป็น " ห้องกาแฟนางนวล " และห้องบริเวณด้านซ้ายเป็นที่รับประทานอาหาร พ.ศ. 2536 ร้านอาหารที่ปลายสะพานสุขตาถึงคราวต้องปิดตัวลง เนื่องจากความทรุดโทรมของฐานรากอาคารชำรุดมาก ไม่ปลอดภัยกับผู้มาใช้บริการ พ.ศ. 2537 ดำเนินการก่อสร้างร้านอาหารชั่วคราว บริเวณริมฝั่งด้านทิศตะวันออก เพื่อบริการอาหารเครื่องดื่มจำนวน 8 หลัง เสร็จสิ้นและเปิดบริการเมื่อ วันที่ 24 ธันวาคม 2537 พ.ศ. 2540 เริ่มดำเนินการปรับปรุงและซ่อมแซมสะพานสุขตาและอาคารร้านอาหารปลายสะพานสุขตา พ.ศ. 2542 เนื่องจากสถานการณ์ภายในบ้านเมืองได้เปลี่ยนแปลงไป การสู้รบตามแนวชายแดนลดน้อยลง ทำให้สถานพักฟื้น ไม่มีทหารที่บาดเจ็บจากการสู้รบมาฟื้นฟูสภาพจิตใจและร่างกาย กองทัพบกจึงได้มีคำสั่งแก้อัตรากองทัพบก โดยยุบสถานพักฟื้น คงเหลือไว้เพียงสถานพักผ่อน เปลี่ยนชื่อหน่วย จากกองอำนวยการสถานพักฟื้นและพักผ่อน กรมพลาธิการทหารบก เป็น กองอำนวยการสถานพักผ่อน กรมพลาธิการทหารบก มีภารกิจในกิจการของทหาร พักผ่อนจากกองทัพภาคต่าง ๆ ปีละ 6 ผลัด สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป พ.ศ. 2543 การปรับปรุงซ่อมแซมสะพานและร้านอาหารปลายสะพานสุขตาได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อย พร้อมเปิดให้บริการ แก่ข้าราชการ ลูกจ้างสังกัดกองทัพบกตลอดจนประชาชนทั่วไปในเดือนสิงหาคม 2543 เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น " ศาลาสุขใจ " |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น